วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

การใ้อินเตอร์เน็ตอย่างปลอดภัย



"ไวเปอร์" เตือนภัยผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต ตกเป็นเหยื่อแฮกเกอร์โดยไม่รู้ตัว






เตือนภัยผู้ใช้อินเตอร์เน็ต ผ่านคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน  อาจตกเป็นเหยื่อของแฮกเกอร์ไม่รู้ตัว ระวังถูกฉกเงินออนไลน์  ผ่านการแฝงตัวเข้ามาของไวรัส






  




ภัยร้ายล่าสุดที่คุกคามอุปกรณ์ดิจิตอลในชีวิตประจำวัน มีความซับซ้อนและสร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น โดยวิธีการที่แฮกเกอร์นิยมใช้คือ สร้างไวรัสที่คอยดักจับรหัส เลขที่บัญชี เลขที่บัตรเครดิต หรือข้อมูลแอ็คเคาต์ออนไลน์ต่างๆ โดยจะแพร่ไวรัสเหล่านี้ไปทางสแปมเมลล์ แบนเนอร์ หรือเป็นลิงค์ส่งต่อในโซเชียลเน็ตเวิร์ค หากผู้ใช้เผลอไปคลิกลิงค์ จะติดไวรัสไปโดยไม่รู้ตัว
 
 
ที่สำคัญ   ไวรัสพวกนี้มักจะไม่แสดงตัวให้รู้  คือจะไม่ส่งผลให้เครื่องทำงานผิดปกติ  แต่จะแอบขโมยข้อมูลสำคัญส่งกลับไปให้แฮกเกอร์  และแฮกเกอร์จะใช้ข้อมูลดังกล่าวในการเข้าถึงบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต และขโมยเงินทีละนิด  ซึ่งเจ้าของบัญชีไม่ทันสังเกตุ เมื่อแฮกเกอร์ทำแบบนี้กับคนจำนวนมากก็จะได้เงินเข้ากระเป๋าไปได้อย่างมากมาย
 
นายทวีชัย คิมหันต์วัฒนาพร กรรมการผู้จัดการบริษัท ทับก้า เทคโนโลยี จำกัด      กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตนิยมทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายสินค้า การโอนเงิน รวมไปถึงการส่งข้อมูลสำคัญทางอีเมล  หรือโซเชียล เน็ตเวิร์ค แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่เห็นความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสำคัญทางการเงินจากแฮกเกอร์ ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากตกเป็นเหยื่อ 
 
นายทวีชัยแนะว่า ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตควรจะมีโปรแกรมสำหรับป้องกันภัยคุกคาม           ให้มีความเหมาะสม ขณะนี้มีผลิตภัณฑ์ดังกล่าวออกมารองรับแทบจะครบทุกดีไวซ์ โดยอาจเลือกเป็นผลิตภัณฑ์แบบอินเตอร์เน็ต ซีเคียวริตี้ที่มีการปกป้องอย่างครอบคลุม และควรเลือกใช้โปรแกรมลิขสิทธิ์แท้ เพราะนอกจากจะมั่นใจในประสิทธิภาพได้แล้ว ยังมีการให้บริการหลังการขายที่คอยให้คำแนะนำ และช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาการใช้งานอีกด้ว

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

ภัยอินเตอร์เน็ต

ทันภัยการใช้อินเตอร์เน็ต



ในยุคปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที  (ICT – Information and Communication Technology) ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ทั่วโลก เชื่อมโยงผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัยเข้าด้วยกัน  
ICT มาจากคำ 3 คำ ประกอบกัน คือ

    I คือ Information หมายถึงสารสนเทศ ในบางครั้งหมายถึงข้อมูล 
    C คือ Communication หมายถึงการสื่อสาร 

      T คือ Technology หมายถึงเทคโนโลยี 


    เมื่อนำมารวมกัน ไอซีที หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศและการสื่อสาร เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ รวมไปถึงการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
    ดังนั้น สื่อไอซีที หมายถึง สื่อที่ใช้เทคโนโลยีในการจัดการสารสนเทศ ในการสื่อสาร ถ่ายทอดข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากผู้ส่งสาร ไปยังผู้รับสาร  ซึ่งในที่นี้จะกล่าวถึงสื่อไอซีทีหลักๆ 3 ตัว ได้แก่ อินเทอร์เน็ต เกมอิเล็กทรอนิกส์ และโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

    เด็กๆ ต้องรู้เท่าทันเว็บไซต์

      เมื่ออ่านเนื้อหาข้อมูลบนเว็บไซต์ เด็กๆ ต้องรู้จักสงสัยและตั้งคำถาม ใครเป็นคนเขียนข้อมูลบนเว็บไซต์ คนเขียนมีความชำนาญในเรื่องที่เขียนหรือไม่ ข้อมูลใหม่ทันสมัยหรือตกยุคไปแล้ว เว็บไซต์นั้นมีเป้าหมายเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้บริษัทของเขาหรือต้องการเพิ่มยอดขายสินค้าหรือเปล่า กลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์เป็นใค ผู้เขียนกระทู้มีจุดประสงค์อะไร มีอารมณ์อย่างไรขณะที่โพสต์ ฯลฯ 

      การอ่านทบทวนและทำความเข้าใจกับเนื้อหาที่อ่านจากเว็บไซต์ การตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งอื่นๆ เพื่อเปรียบเทียบ ก็เพื่อให้รู้จักเลือกใช้ข้อมูล เพื่อไม่ให้เชื่อหรือคล้อยตามและตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาขายสินค้า เพื่อไม่ให้ถูกหลอกถูกโกงจากกระทู้ขายสินค้า เพื่อไม่หลงเชื่อคำบอกกล่าวของคนไม่ใช่หมอแต่ชอบทำตัวเป็นหมอที่คอยให้คำแนะนำกับผู้อ่านเว็บบอร์ดให้กินยาตัวโน้นทายาตัวนี้ เพื่อให้เลิกตื่นตระหนกตกใจกับข่าวโคมลอยทางเน็ต เพื่อไม่หลงใช้ข้อมูลเก่าๆ ล้าสมัยบนเว็บไซต์ เพื่อไม่ไปละเมิดลิขสิทธิ์ข้อมูลที่ก๊อปปี้หรือส่งต่อๆ กันมาแล้วส่งต่อๆ กันไป

      อย่าลืมเลือกเว็บไซต์ดีๆ ที่มีสาระ เว็บไซต์ข่าวสาร เว็บไซต์สุขภาพ แหล่งเรียนรู้มากมายทั่วโลกได้ถูกนำเสนอในรูปของเว็บไซต์ที่เราสามารถเข้าไปคลิกชมได้ เช่น พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ สารานุกรมทั้งของไทยและต่างประเทศ สารคดีเนชั่นแนลจีโอกราฟฟี (National Geography) ดิสคัฟเวอรีชาแนล (Discovery Channel)  บีบีซี (BBC) ซีเอ็นเอ็น (CNN) หรือแม้แต่ดีสนีย์ (Disney) ก็มีบริการบนเว็บไซต์ หากต้องการสืบค้นข้อมูลหรือค้นหาเว็บไซต์ อย่าลืมใช้เครื่องมือสืบค้น หรือ เสิชเอ็นจิ้น (Search Engine) ซึ่งมีด้วยกันหลายตัว เช่น กูเกิ้ล www.google.com หรือ ยาฮู www.yahoo.com

      พบเห็นเว็บไซต์เนื้อหาไม่เหมาะสม ผิดกฎหมาย เป็นอันตรายต่อเด็ก ละเมิดต่อสถาบันอันเป็นที่รักของเราชาวไทย เป็นภัยต่อสังคมและความมั่นคงของประเทศ ช่วยกันสอดส่องและปราบปราม โดยแจ้งชื่อเว็บไซต์ดังกล่าวไปที่ เว็บไซต์ไทยฮอตไลน์ www.thaihotline.org  หรือ  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ htcc.ict.police.go.th/webadvise/  หรือ  กระทรวงไอซีที  www.mict.go.th/re_complaint.php





    วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

    บรอการต่างๆบนอินเตอร์เน็ต

    บริการต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ต

    1. World Wide Web (WWW) เครือข่ายใยแมงมุม
              เป็นการเข้าสู่ระบบข้อมูลอย่างข้อมูลในรูปของ Interactive Multimedia คือ มีทั้งรูปภาพ ข้อความ ภาพเคลื่อนไหว เสียง และวีดีโอ อีกทั้งข้อมูลเหล่านี้ยังใช้ระบบที่เรียกว่า hypertext กล่าวคือ จะมีคำสำคัญหรือรูปภาพในข้อมูลนั้นที่จะช่วยให้ท่าน เข้าสู่รายละเอียดที่ลึกและกว้างขวางยิ่งขึ้น คำสำคัญดังกล่าวจะเป็นคำที่เป็นตัวหนา หรือขีดเส้นใต้ เพียง แต่ท่านเลือกกด ที่คำ ที่เป็นตัวหนาหรือขีดเส้นใต้ นั้น ๆ ท่านก็สามารถเข้าสู่ข้อมูลเพิ่มเติมได้ (ข้อมูลเหล่านี้จะมีผู้สร้างขึ้นมาและเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ ทั่วโลก)





    2. ไปรษณีย์อิเลคทรอนิคส์ (Electronic Mail หรือ E-Mail)
        เป็นบริการหนึ่งบนอินเทอร์เนตที่คนนิยมใช้กันมากคือส่งจดหมายโดยทางคอมพิวเตอร์ถึงผู้ที่มีบัญชีอินเตอร์เน็ต ด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ใกล้หรือไกลคนละซีกโลกจดหมายก็จะไปถึงอย่างสะดวกรวดเร็วและง่ายดายโปรแกรมที่ใช้ ได้แก่
    Hotmail  , YahooMail , ThaiMail และยังมี Mail ต่าง ๆ ที่ให้บริการอย่างมากมายในปัจจุบัน ตามหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ








    วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

    ภาษาฟอร์แทรน


       เนื่องจากในปัจจุบันทุก ๆ ปีจะมีภาษาคอมพิวเตอร์เกิดขึ้นมากมาย และภาษาต่าง ๆ จะมีจุดดีและจุดด้อยแตกต่างกันไป ผู้ใช้จึงจำเป็นต้องทำการคัดเลือกภาษาที่จะนำมาใช้งานอย่างระมัดระวัง เนื่องจากเมื่อศึกษาและพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วยภาษาใดภาษาหนึ่งแล้ว การเปลี่ยนไปใช้ภาษาอื่นในภายหลังจะเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างยิ่ง ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องสูญเสียไป รวมทั้งปัญหาของบุคลากรที่ต้องศึกษาหาความชำนาญใหม่อีกด้วย
    ในการเลือกภาษาคอมพิวเตอร์ที่จะนำมาใช้ สิ่งที่ควรพิจารณา คือ
    • ในหน่วยงานหนึ่ง ๆ ควรจะใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาเดียวกัน เพราะการดูแลรักษาซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นตลอดจนการจัดหาบุคลากรจะกระทำให้ง่ายกว่า
    • ในการเลือกภาษาควรเลือกโดยดูจากคุณสมบัติหรือข้อดีของภาษานั้น ๆ เป็่นหลัก
    • ถ้าโปรแกรมที่เขียนขึ้นนั้นต้องนำไปทำงานบนเครื่องต่าง ๆ กัน ควรเลือกภาษาที่สามารถใช้งานได้บนทุกเครื่อง เพราะจะทำให้เขียนโปรแกรมเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
    • ผู้ใช้ควรจำกัดภาษาคอมพิวเตอร์ที่จะใช้ ไม่ควรติดตั้งตัวแปลภาษาคอมพิวเตอร์ทุกภาษาบนเครื่องทุกเครื่อง
    • ภาษาคอมพิวเตอร์ที่เลือกใช้ จะถูกจำกัดโดยนักเขียนโปรแกรมที่มีอยู่ เพราะควรใช้ภาษาที่มีผู้รู้อยู่บ้าง
    • บางครั้งในงานที่ไม่ยุ่งยากนัก อาจใช้ภาษาคอมพิวเตอร์พื้นฐาน เช่น ภาษา BASIC เพราะเขียนโปรแกรมได้ง่ายและรวดเร็ว รวมทั้งมีติดตั้งอยู่บนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ส่วนมากอยู่แล้ว


    ภาษาฟอร์แทรน (Fortran)
      
              ภาษาฟอร์แทรน หรือ FORTRAN เป็นชื่อที่ย่อมาจาก FORmular TRANslation ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อกลางทศวรรษที่ 1950 ด้วยฝีมือของพนักงานบริษัทไอบีเอ็ม นับเป็นภาษาชั้นสูงภาษาแรกที่ได้มีการใช้แพร่หลาย จึงได้มีบัญญัติภาษาฟอร์แทรนฉบับมาตรฐานขึ้นในเวลาต่อมาโดย ANSI (American National Standard Institute)
              ฟอร์แทรนถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทางด้านวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ อันเป็นงานที่มักใช้งานประมวลที่ซับซ้อน
              เนื่องจากฟอร์แทรนถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานทางวิทยาศาสตร์ จึงมีจุดอ่อนในเรื่องเกี่ยวกับการจักการไฟล์ นอกจากนี้จากการที่ฟอร์แทรนถูกออกแบบมาตั้งแต่สมัยที่เรายังใช้บัตรเจาะรูซึ่งมีขนาด 80 คอลัมน์  ทำให้ฟอร์แทรนมีกฎเกณฑ์ที่จะต้องเริ่มต้นและจบประโยคภายในคอลัมน์ที่กำหนด ซึ่งเป็นเรื่องน่ารำคาญพอสมควร  ในการเขียนโปรแกรมในปัจจุบัน เมื่อพูดถึงโครงสร้างของภาษาฟอร์แทรนแล้วก็ไม่สามารถสู้ภาษารุ่นใหม่ๆได้
     ชุดคำสั่งภาษาฟอร์แทรน
              เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะกับการใช้งานทางด้านการคำนวณ  ตัวแปลชุดคำสั่งจะทำหน้าที่อ่านชุดคำสั่งที่เป็นภาษาฟอร์แทรนที่เราเขียนขึ้น และแปลเป็นภาษาเครื่องที่ชุดคำสั่งควบคุมสามารถรับได้ คำสั่งในภาษาฟอร์แทรนแต่ละคำสั่งเรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า statement  ซึ่งแบ่งเป็นดังนี้
                   คำสั่งรับส่งข้อมูล (input-output statement)ได้แก่  READ, WRITE หรือ PRINT, FORMAT
                   คำสั่งคำนวณ (arithmetic statement) ได้แก่
                        - คำสั่งที่เป็นการคำนวณ  โดยทางซ้ายมือเป็นตัวแปร ทางขวามือเป็นการคำนวณ  เช่น X = A + B + 5
                        - คำสั่งตรรกะ (logical statement) เป็นคำสั่งประเภทควบคุม ได้แก่ คำสั่งที่ใช้ในการทดสอบ             ค่าเช่น IF (A.EQ.B) GO TO 15 หรือ GO TO (1, 2, 3,4, 5) และ I เป็นต้น
             นอกจากนี้  ยังมีคำสั่งประกอบอื่นๆ อีก เช่น DIMENSION, DATA, CALL SUB, และ RETURN เป็นต้น
     ตัวอย่างของภาษา  FORTRAN  บางส่วน มีดังนี้
    READ    X
    IF((X.GT.0)  .AND.  (X.LT.100))  THEN
                PRINT *, ‘VALUE  OF  X  IS :’,X
    ELSE
                 PRINT * , ‘X  IS  NOT  BETWEEN  0  AND  100’
    ความหมายของคำสั่งงาน
    READ  X  หมายถึง การอ่านค่าลงในตัวแปรชื่อ  X
    IF((X.GT.0)  .AND.  (X.LT.100))  THEN หมายถึง  การตรวจสอบค่า X ที่อ่านค่า เข้ามาว่าอยู่ระหว่า 0-100 หรือไม่  ถ้าใช่ให้ทำคำสั่งหลัง THEN ถ้า
    ไม่ใช่ให้ทำคำสั่งหลัง ELSE
    PRINT *, ‘VALUE  OF  X  IS :’,X  หมายถึง  ให้พิมพ์ทั้งประโยคด้วยข้อความที่ กำหนดแล้วตามด้วยค่าของตัวแปร X ที่อ่านเข้ามา
    PRINT * , ‘X  IS  NOT  BETWEEN  0  AND  100’  หมายถึง  พิมพ์ทั้งประโยค โดยแสดงค่าของก่อนประโยคข้อความ 
    ข้อดีของภาษาฟอร์แทรน 
              เป็นภาษาที่มีคำสั่งงานเน้นประสิทธิภาพด้านการคำนวณ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์รวมทั้งคำสั่งควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเมนเฟรม
    ข้อจำกัดของภาษาฟอร์แทรน 
              เนื่องจากคำสั่งงานเหมาะสำหรับการควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่  เมื่อนำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก  จะต้องปรับใช้คำสั่งมากมาย  รวมทั้งเมื่อมีการเปลี่ยนเครื่องประมวลผลก็ต้องเปลี่ยนรูปแบบคำสั่งทุกครั้ง